Friday, 24 March 2023

“ลีซอ” จบบริบูรณ์ 20 ปี

20 ปีเต็มบนถนนพ่อค้าแข้งอาชีพ นานพอ ๆ กับที่ผมทำข่าวสารกีฬามากว่า 2 ทศวรรษ ในที่สุด ไอ้หนู ลีซอ  ธีรเทพ วิโนทัย หรือ “เจ้าซอ” ที่พวกเราผู้รายงานข่าวสายบอล (ไทย) คุ้นเคยกันดี

ด้วยเหตุว่าเจ้าตัวมีพ่อเป็นอดีตสื่อกีฬารุ่นเก๋า อย่าง “พี่เทพ” เทพชัย วิโนทัย ที่คอยปลุกปั้นลูกชายสุดที่รัก..มาตั้งแต่อ้อนแต่ออก

ก็ปิดฉากชีวิตนักฟุตบอลของตนเองอย่างสมบูรณ์แบบที่สุด เมื่อค่ำวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ด้วยวัย 37 ปี

โดยทิ้งทวนสังหารจุดโทษเป็นประตูชัยให้ทีมโปลิศ เทโร เชือดชนะ “สวาทแคท” นครราชสีมา 1-0

จารึกประตูที่ 96 บนเวทีไทยลีก เก็บ 3 คะแนนเต็ม ในแมตช์ส่งท้ายเลกแรก ซึ่งๆหน้าสาวกมังกรโล่เงินที่สนามบุณยะจินดา

สิ้นสุดตำนานของยอดนักเตะที่ได้ชื่อว่าสร้างสีสันให้กับฟุตบอลไทยมากที่สุดคนนึงในประวัติศาสตร์

ธีรเทพ วิโนทัย

เรื่องราวของ ลีซอ บนเส้นทางสายลูกหนัง มีมากมายเหลือเกินครับ

เรียกว่าเขียนเล่าออกมาเป็นตัวหนังสือให้อ่านกัน ก็น่าจะเป็น “พ็อกเก็ตบุ๊ก” ฉบับ Best seller เราดีๆนั่นเอง!

ครั้งนึงมีคนเคยเปรียบเทียบเทียบ “เจ้าซอ” ราวกับ “ทุเรียนพันธุ์ดี” ที่มีทั้งยังคนรัก และคนไม่ถูกใจพอ ๆ กัน

จนถึงวันสุดท้ายเมื่อเจ้าตัวต้องล่ำลา หญ้าเลิกเล่นไปจริง ๆ เชื่อว่าแฟนบอลส่วนใหญ่ใจหาย

ด้วยเหตุว่าอันที่จริงทุกคนต่างก็รักและ ผูกพันในตัวเขาด้วยกันทั้งหมด!

ด้วยความที่ผมสนิทสนม และรู้จักคุ้นเคย กับครอบครัว “วิโนทัย” ตั้งแต่รุ่นพ่อแม่..นี่แหละ

ทำให้พอจะทราบถึงเบื้องหลังความสำเร็จในทุกช่วงชีวิตของ ลีซอที่มีผู้ใหญ่หลายคน คอยอุปถัมภ์คำ้ชูเจ้าตัว ไม่เคยขาด

ไม่ว่าจะเป็น นายไบรอัน มาคาร์ ประธานสโมสรบีอีซีเทโรศาสน

ผู้เปิดประตู บานแรก สู่การเป็นนักฟุตบอล อาชีพให้กับเจ้าซอ อย่างเต็มกำลัง ตั้งแต่ยุควัยทีน ที่เขามาเริ่มต้นกับยอดทีมดังแดนหนองจอกแห่งนี้

กระทั่งได้รับสมญานามให้เป็น “เจ้าชายมังกรไฟ” ตัวจริง เสียงจริง

และยังอ้าแขนต้อนรับ ลีซอคืนสู่เหย้า ในช่วงบั้นปลายอีกครั้ง ทำให้เจ้าตัวได้กลับมาแขวนสตั๊ดภายใต้สีเสื้อเทโรสมใจ

เจ้าซอ

ส่วนอีกคน ที่ลืมไม่ได้ ด้วยเหตุว่าเป็นผู้ให้โอกาส “ธีรเทพ วิโนทัย” เข้ามามีชื่ออยู่ในทีมชาติไทย 17 ปีชุดลุยศึกฟุตบอล เยาวชนโลก ที่นิวซีแลนด์

เขาคนนั้น คือ “น้าติ๊ก” โค้ชสมชาติ ยิ้มศิริ ที่ตัดสินใจหนีบเอาไอ้หนูนักเตะวัยเพียงแค่ 14 ปีไปลุยแดนกีวีด้วย

ท่ามกลางคำครหาเรื่อง “เด็กเส้น” ที่ลอยมาเข้าหูอยู่เสมอ

แต่ยอดโค้ชผู้มองการณ์ไกล…ก็ไม่สน ด้วยเหตุว่ามั่นใจว่า “ไอ้เทพ” (ชื่อที่น้าติ๊ก เรียกลีซอมาตลอด) ศิษย์รัก..ผู้นี้

จะเติบโตไปเป็นกำลังสำคัญของทีมชาติได้แน่ ๆ ในวันข้างหน้า

ซึ่งปรมาจารย์ลูกหนัง อย่าง “น้าติ๊ก” ก็มองดูไม่ผิดจริงๆ

เนื่องด้วยในเวลาต่อมา ลีซอธีรเทพ พัฒนาตนเองกระทั่งก้าวขึ้นไปเป็นซุปเปอร์สตาร์เต็มกำลังในทีมช้างศึกดูเหมือนจะทุกชุด..เลยก็ว่าได้

ผู้ใหญ่อีกคน ที่มีบุญคุณล้นเหลือต่อ “เจ้าซอ” ซึ่งคนจำนวนไม่น้อยอาจจะยังไม่ทราบ

แต่ผมขอยืนยันว่าถ้าเกิดไม่มีบุคคลท่านนี้ เราอาจจะไม่ได้มองเห็น ลีซอขึ้นหิ้งมาเป็นตำนานลูกหนังอย่างทุกวันนี้ก็เป็นได้

นั่นก็คือ “พี่วิ” ระวิ โหลทอง บิ๊กบอสใหญ่แห่งอาณาจักรสยามสปอร์ต ที่ทุกคนรู้จักกันดี

ซึ่งเป็นผู้ที่คอยส่งเสริม ทั้งยังผลักทั้งดันทุกวิถีทาง ให้ไอ้หนูลีซอได้มีโอกาสไปเป็นนักเตะฝึกหัดในทีมเยาวชนคริสตัลพาเลซ บนเกาะอังกฤษ

ทำให้เจ้าตัวบ่มเพาะทำความเข้าใจวิถีการเป็น “นักเตะอาชีพ” ที่มุ่งมั่น ทุ่มเท และมี PASSION เกินร้อยแรงม้า ทุกหนที่ลงสนาม กระทั่งเป็นนิสัยติดตัวมาโดยตลอด

ไอ้หนู ลีซอ

เท่านั้นยังไม่พอ ตอนที่ “เจ้าซอ” กลับจากการค้าแข้งกับ เค ลีเซ ในลีกเบลเยียม

ก็เป็น “พี่วิ” อีกนั่นล่ะ ที่ดึงเขา มาร่วมทัพ “กิเลนผยอง” เมืองทอง ยูไนเต็ด กระทั่งสามารถคว้า แชมป์ไทยลีก มาครองได้สำเร็จ

มาถึงคนสำคัญที่สุด . . . ที่อยู่เบื้องหลังลีซอ ในทุกเรื่องราวของชีวิต ตั้งแต่ลืมตาดูโลกมาจนถึงทุกวันนี้…

ซึ่งจะเป็นใครไปไม่ได้ นอกจากคุณพ่อเทพชัย และคุณแม่แม้ว พรสมจิต วิโนทัย

ที่ยืนเคียงข้างคอยเป็น “ลมใต้ปีก” ของลูกชายสุดที่รัก..มาโดยตลอด

ภาพของวัน ล่ำลาสนาม ที่ตำนาน “หมายเลข 14” ก้มลงไป กราบแทบเท้าพ่อมารดาบังเกิดเกล้า หลังเกมสิ้นสุดลง

นับเป็นภาพประทับใจ ที่ทำให้วันสุดท้าย ในการเป็นนักเตะของ “ลีซอ” ธีรเทพ วิโนทัย

จบบริบูรณ์ลงไปแล้ว…ชนิดสุดเพอร์เฟกต์ อย่างตามที่เป็นจริง !!!